Conversation

Conversation เป็นบทสนทนาโต้ตอบในสถานการณ์ต่างๆ เช่น ในชีวิตประจำวัน ในร้านอาหาร ร้านค้า ที่ทำงาน ฯลฯ หากเป็นในการสอบ Conversation คำถามมักถามว่าใครพูดกับใคร สถานการณ์เกิดที่ไหน ความสัมพันธ์ระหว่างผู้พูดเป็นอย่างไร อารมณ์ผู้พูดเป็นอย่างไร หรือถามเกี่ยวกับเรื่องที่พูด คำศัพท์ สำนวนภาษาอังกฤษหรือความหมายที่ปรากฎในบทสนทนาภาษาอังกฤษนั้น ซึ่งบทความนี้จะพูดถึงสิ่งที่จำเป็นต้องรู้ ไม่ว่าจะในชีวิตจริง หรือการสอบภาษาอังกฤษ

1. Meetings , Greetings (การพบและทักทายกัน)
– การแนะนำคนอื่นให้รู้จักกัน เมื่อรู้จักกันครั้งแรก ข้อความที่นิยมใช้ทักทายกัน คือ How do you do หรือบางครั้งอาจใช้ Nice to meet you ก็ได้
– การแนะนำตัวเอง ในกรณีที่เราไม่รู้จักกันมาก่อน จำเป็นต้องแนะนำตัวเองเพื่อให้การสนทนาเกิดขึ้น
May I introduce myself? My name is Tony.
– การแนะนำผู้พูด ในกรณีที่เราเชิญใครคนหนึ่งมาพูด และเราเป็นผู้แนะนำผู้พูด
May I introduce you to Mr. John.
Mr. John, this is Mr. Sam.
– การพบกันครั้งต่อไป สำหรับบุคคลที่ยังไม่สนิทหรือการทักทายที่เป็นทางการ ผู้ทักทายและผู้ตอบใช้ข้อความเดียวกันดังนี้
Good morning (เวลาเช้าถึงกลางวัน)
Good afternoon (เวลาตั้งแต่บ่ายโมงถึง 6 โมงเย็น)
Good evening (เวลา 6 โมงเย็นเป็นต้นไป)
กรณีที่ทักทายกับคนที่สนิทกัน ทั้งผู้ทักทายและผู้ตอบอาจใช้
Hello หรือ Hi หรือ How are you?

2. Goodbye (การลาจากกัน)
ปกติการลาจากกันใช้ Goodbye แต่ถ้าสนิทกันมากจะใช้ Bye , Bye now หรือ See you ผู้ตอบอาจจะตอบแบบเดียวกัน
ในกรณีที่ผู้พูดคาดว่าจะพบกันอีกวันต่อไปอาจใช้ข้อความ
See you soon , See you later ก็ได้ การตอบสามารถใช้ Fine, O.K., All right หรือ That’s right.

3. การกล่าวคำในโอกาสต่างๆ เช่น
การแสดงความยินดี มักใช้คำว่า Congratulations

4. การเชิญชวนที่สุภาพและการขอบคุณ มักใช้คำว่า Please สำหรับการเชิญชวนหรือการขอ การขอบคุณโดยปกติแล้วใช้ข้อความ Thank you, Thank you very much.

5. การขอโทษ โดยปกติทั่วไปมักใช้คำว่า Sorry ผู้ตอบอาจใช้คำว่า That’s all right.

6. การใช้ so มักใช้ในการตอบคำถามทั้งคล้อยตามและขัดแย้งโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ใช้ต่อท้ายประโยคต่อไปนี้ think , believe , expect , suppose , hope , be afraid

7. การขอร้องหรือการขอความช่วยเหลือ ส่วนมากใช้คำว่า would หรือ could

8. การเชื้อเชิญ ส่วนมากมักใช้คำถามที่ขึ้นต้นด้วย will , would , would you like to , would you care to ส่วนการตอบมักใช้ Yes หรือ No การปฏิเสธคำเชิญอย่างสุภาพใช้ I’m afraid… หรือ I’m sorry… พร้อมกับเหตุผลในการตอบปฏิเสธ

9. การแนะนำ อาจเป็นการเชิญชวน การแสดงความคิดเห็น การให้คำแนะนำ ซึ่งอาจขึ้นต้นด้วย
Let’s… , What about…? , How about… ? , I think (suppose , expect) , You’d better…?

10. การอุทาน (Exclamation)
– การแสดงการทึ่ง การยอ หรือการประจบ มักใช้ประโยคในรูปแบบ

How + adj … !
How interesting !

What + (a , an) + adj. + n ….!
What a great idea !

– การแสดงความรังเกียจ การตำหนิ ประโยคที่ใช้มักเป็นแบบ

What (a, an) + adj + n.!
What an awful idea !

– การแสดงความแปลกใจ อาจใช้รูปแบบ
My goodness , what a noise!

– การเตือนให้ระวัง ใช้ประโยคอุทานว่า
Look out! , Watch out!

วลี, ประโยคภาษาอังกฤษน่ารู้
สำหรับการสื่อสาร สนทนาภาษาอังกฤษ

เพิ่มคำอ่านและประโยคให้อีกเรื่อยๆ นะครับ

OK = ตกลง
that’s fine = ก็ได้ / ไม่เป็นไร
that’s right = ถูกต้องแล้ว

คำที่ให้ความหมายว่า “แน่นอน”
sure
certainly
definitely
absolutely
of course

วลีอื่นๆ
as soon as possible = เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้
that’s enough = พอแล้ว
it doesn’t matter = ไม่เป็นไร
it’s not important = ไม่ใช่เรื่องสำคัญ
it’s not serious = ไม่ใช่เรื่องจริงจัง
it’s not worth it = ไม่คุ้มค่าเลย
I’m in a hurry = ฉันกำลังรีบ
I’ve got to go = ฉันต้องไปแล้ว
I’m going out = ฉันกำลังจะออกไปข้างนอก
sleep well = หลับสบาย(ฝันดี)นะ
same to you! = เช่นกัน
me too = ฉันก็เหมือนกัน
not bad = ก็ไม่เลวนัก

I like … = ฉันชอบ…
I don’t like … = ฉันไม่ชอบ…
– him = เขา (รูปกรรมของ he)
– her = เธอ (รูปกรรมของ she)
– it = มัน (รูปกรรมของ it)

การขอบคุณ และขอโทษ

thanks for your … = ขอบคุณสำหรับ…ของคุณ
help = ความช่วยเหลือ
hospitality = การดูแลเอาใจใส่
email = อีเมล
thanks for everything = ขอบคุณสำหรับทุกสิ่ง
I’m sorry = ฉันขอโทษ
I’m really sorry = ฉันขอโทษจริง ๆ
sorry I’m late = ขอโทษที่ฉันมาสาย
sorry to keep you waiting = ขอโทษที่ปล่อยให้คุณรอ
sorry for the delay = ขอโทษในความล่าช้า

คำอุทาน

look! = ดูสิ!
great! = เยี่ยม!
come on! = มาสิ!
only joking! / just kidding! = ล้อเล่นน่า!
bless you! = ขอพระเจ้าคุ้มครอง! (หลังจาม)
that’s funny! = ตลกดีนะ!
that’s life! = ชีวิตก็เป็นแบบนี้แหล่ะ!
damn it! = ให้ตายสิ!

การพูดทั่วไป

Come in! = เข้ามา!
Please sit down = โปรดนั่งลง
Could I have your attention, please? = กรุณาตั้งใจฟังหน่อย
Let’s go! = ไปกันเถอะ!
Hurry up! รีบหน่อย!
Get a move on! = เร็วๆ เข้า!
Calm down = ใจเย็น ๆ
Steady on! = นิ่งไว้!
Hang on a second = รอเดี๋ยวเดียว
Hang on a minute = รอสักครู่
One moment, please = กรุณารอสักครู่
Just a minute = สักครู่นะ
Take your time = ไม่ต้องรีบ
Please be quiet = โปรดอยู่ในความสงบ
Shut up! = หุบปาก!
Stop it! = หยุด!
Don’t worry = อย่ากังวล
Don’t forget = อย่าลืม
Help yourself = ตามสบาย
Go ahead = เชิญเลย
Let me know! = บอกให้ฉันรู้ด้วย!

หากคุณต้องการให้ใครสักคนเดินเข้าประตูก่อนคุณ สามารถพูดว่า
after you! = เชิญคุณก่อน! (ฉันตามทีหลัง)

คำที่เกี่ยวข้องกับสถานที่

here = ที่นี่
there = ที่นั่น
everywhere = ทุกที่
nowhere = ไม่มีที่ไหน
somewhere = บางแห่ง

การถามทั่วๆ ไป

Where are you? = คุณอยู่ที่ไหน
What’s this? = นี่อะไร
What’s that? = นั่นอะไร
Is anything wrong? = มีอะไรผิดปกติหรือ
What’s the matter? = เกิดอะไรขึ้น
Is everything OK? = ทุกอย่างราบรื่นไหม
Have you got a minute? = คุณมีเวลาสักครู่ไหม
Have you got a pen I could borrow? = คุณมีปากกาให้ฉันยืมสักด้ามไหม
Really? = จริงเหรอ
Are you sure? = แน่ใจหรือ
Why? = ทำไม
Why not? = ทำไมถึงไม่เป็นอย่างนั้นล่ะ
What’s going on? = กำลังเกิดอะไรขึ้นหรือ
What’s happening? = กำลังเกิดอะไรขึ้นหรือ
What happened? = เกิดอะไรขึ้น (เกิดไปแล้ว)
What? = อะไร
Where? = ที่ไหน
When? = เมื่อไร
Who? = ใคร
How? = อย่างไร
How many? = เท่าไร
How much? = เท่าไร

การแสดงความยินดีและการแสดงความเสียใจ

Congratulations! = ยินดีด้วย!
Well done! = ทำได้ดีมาก!
Good luck! = โชคดีนะ!
Bad luck! โชคร้ายจัง!
Never mind! = ไม่เป็นไร!
What a pity! / what a shame! = น่าเสียดายจัง!
Happy birthday! = สุขสันต์วันเกิด!
Happy New Year! = สุขสันต์วันปีใหม่!
Happy Easter! = สุขสันต์วันอีสเตอร์!
Happy Christmas! / merry Christmas! = สุขสันต์วันคริสต์มาส!
Happy Valentine’s Day! = สุขสันต์วันวาเลนไทน์!
Glad to hear it = ดีใจที่ได้ยินอย่างนั้น
Sorry to hear that = เสียใจที่ได้ยินอย่างนั้น

การแสดงความต้องการและความรู้สึก

I’m tired = ฉันเหนื่อย
I’m exhausted = ฉันเหนื่อยมาก
I’m hungry = ฉันหิว
I’m thirsty = ฉันหิวน้ำ
I’m bored = ฉันเบื่อ
I’m worried = ฉันกังวล
I’m looking forward to it = ฉันกำลังตั้งตารอคอย
I’m in a good mood = ฉันอารมณ์ดี
I’m in a bad mood = ฉันอารมณ์เสีย
I can’t be bothered = ฉันขี้เกียจทำ

การต้อนรับ และกล่าวลา

Welcome! = ยินดีต้อนรับ!
Welcome to … = ยินดีต้อนรับสู่…
– Thailand = ประเทศไทย
Long time, no see! = ไม่ได้เจอกันนานเลย!
All the best! = ขอให้โชคดี!
See you tomorrow! = พบกันพรุ่งนี้!

การถามและการแสดงความคิดเห็น

What do you think? = คุณคิดว่าอย่างไร
I think that … = ฉันคิดว่า…
I hope that … = ฉันหวังว่า…
I’m afraid that … = ฉันกลัวว่า…
In my opinion, … = ตามความเห็นของฉัน…
I agree = ฉันเห็นด้วย
I disagree / I don’t agree = ฉันไม่เห็นด้วย
That’s true = เป็นเรื่องจริง
That’s not true = ไม่ใช่เรื่องจริง
I think so = ฉันก็คิดเช่นนั้น
I don’t think so = ฉันไม่คิดเช่นนั้น
I hope so = ฉันหวังเช่นนั้น
I hope not = ฉันหวังว่าคงไม่เป็นเช่นนั้น
You’re right = คุณถูก
You’re wrong = คุณผิด
I don’t mind = อะไรก็ได้ (ฉันยังไงก็ได้ ไม่ว่ากัน)
It’s up to you = แล้วแต่คุณ
That depends = แล้วแต่
That’s funny, … = แปลกจัง…
That’s interesting = น่าสนใจดี



ข้อสอบ

1. Conversation หมายถึงอะไร
    บทสนทนาโต้ตอบในสถานการณ์ต่างๆ
2. Meetings , Greetings หมายถึงอะไร
    การพบและทักทายกัน
3. ข้อความที่นิยมใช้ทักทายกัน คืออะไร
    How do you do หรือบางครั้งอาจใช้ Nice to meet you
4. Goodbye หมายถึงอะไร
    การลาจากกัน
5. ในกรณีที่ผู้พูดคาดว่าจะพบกันอีกวันต่อไปอาจใช้ข้อความอะไร
    See you soon , See you later
6. การแสดงความยินดี มักใช้คำว่า
    Congratulations
7. การขอโทษ โดยปกติทั่วไปมักใช้คำว่า
    Sorry 
8. การขอร้องหรือการขอความช่วยเหลือ ส่วนมากใช้คำว่า
    would หรือ could
9. การแนะนำ อาจเป็นการเชิญชวน การแสดงความคิดเห็น การให้คำแนะนำ ซึ่งอาจขึ้นต้นด้วยคำว่า        อะไร
   Let’s… , What about…? , How about… ? , I think (suppose , expect) , You’d better…?
10. การเตือนให้ระวัง ใช้ประโยคอุทานว่า
     Look out! , Watch out!


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น